บรื๋ออออ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพเลย เพราะเนตที่อมันห่วย + งานที่ต้องสะสางไปให้หมด ทั้งงานกลุ่มงานเดี่ยว
ตอนนี้ก็เลยต้องมาอัพที่รร.คาบคอมนี่แหละ งั้นไปละทุกคน
PS. - ตั้งใจอ่านหนังสือนะเพื่อนๆ
- จะไปเสนองานแว้ว
- รักยาย รักแม่ รักเจ้ขวัญ รักเจ้บัว รักเพื่อน
- สู้ๆสำหรับไฟนอลนะ จ้วบ
วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2551
- - - - - - L I F E - - - - - -
มีรูป แต่กว่าจะอัพได้ เหนื่อยแทบตาย อะไรจะขนาดนี้เนี่ย - -" มาดูอะไรที่เป็นสาระกับจิตใจตัวเองกันบ้าง ก่อนที่จะสายเกินไป
เค้าอาจจะดีใจที่เราได้เกิดมา แต่เค้าและเราก็รู้ ว่าใครในโลกนี้เป็นอำมตะไม่ได้หรอก จริงมั้ย ? ใช้ชีวิตให้คุ้มค่านะ ก่อนที่จะเสียดายน้ำตาที่ได้ร้องไห้ตอนเกิดมา
นี่แหละ คือ"ชีวิต"
ทำอะไรก็ได้ ทำไปเหอะ ขอให้สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดี แล้วตัวเองก็มีความสุข อื้ม !! อย่าลืมนึกถึงครอบครัวเป็นอันดับแรกล่ะ ^^
เค้าอาจจะดีใจที่เราได้เกิดมา แต่เค้าและเราก็รู้ ว่าใครในโลกนี้เป็นอำมตะไม่ได้หรอก จริงมั้ย ? ใช้ชีวิตให้คุ้มค่านะ ก่อนที่จะเสียดายน้ำตาที่ได้ร้องไห้ตอนเกิดมา
ฮารูปนี้อ่ะ คิดได้เนอะ ก่อนพูดอ่ะ คิดด้วยแล้วกัน เดี๋ยวนิ้วเท้าสวยๆ จะวางทาบบนหน้าให้ไม่รู้ด้วยล่ะ อิอิ
ก็มีแค่นี้แหละ มันอัพยากโคตรเลย สงสัยที่เนตหอเลวร้ายเกินจะเยียวยา ไปและ อายน้ำ นอน วุ้ววว วันนี้คิดว่าตัวเองมีความสุข แค่นี้ล่ะ
ลงท้ายด้วยคำว่า "สุขกาย สบายจิต"
PS. - ขาด ปล.ไปเหมือนจะขาดใจ
- ขอบคุณ ปลา เค ฮอร์มาก ที่ให้กำลังใจเน้อ
- รักแม่ รักยาย รักเจ้บัว รักเจ้ขวัญ รักเพื่อนๆ
- ฝันดีนะทุกคน
- แล้วเจอกันที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา อิอิ
วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2551
- - - - - - T H A N K S - - - - - -
>>>> ขอบคุณ <<<<
กว่าจะเปิดเนตได้ เฮ้อ !! ห่วยๆๆ ไม่ไหวเล้ย
วันนี้เป็นวันศุกร์ เรียนแค่สามคาบ (ไปรร.เกือบสาย - -) นึกขึ้นได้ว่าตอนเช้าต้องรีบไปเอาใบคะแนนเลขง่ายของจารย์ภราดรมาให้เพื่อนเช็ค
กำล่ะ><" ยังเดินออกจากหออยู่เลย ไม่ได้การณ์ เลยโทรบอกเจ้ารองหัวหน้า (กลม) ให้ไปเอาแทน ขอบคุณนะอาร์ต ------ (1)
จากนั้นก็เรียนๆ เล่นๆไปได้สองคาบ อาจารย์ปัญญาก็โทรมาบอกว่าวันนี้อาจารย์ไม่สบาย ไม่มารร.นะ ให้ไปเอาใบงานมาทำด้วย ??? เง้อ คิดว่าจะสบาย
ที่ไหนได้ อาจารย์มีแผนสอง แหะๆ (ไม่ได้นินทานะอาจารย์) ก็ทำใบงานไป พอเลิกเรียนทุกคาบและ วุ้ววว สบายๆ ก็ต้องรีบไปโรงพยาบาลรามาฯ
เพราะไอ (ไม่อยากเล่นมุก - -") มาหลายเดือนแล้ว แม่ก็บอกว่าต้องไปหาได้แล้วนา กลัวจะเป็นวัณโรค (ช่างน่ากลัว !!!) แม่ก็ติดต่อคนที่รู้จักใน รพ.ให้
ขนาดแม่อยู่พัทลุงนะ ยังสามารถได้ขนาดนี้ แหะๆ (รักแม่จังเลย) ขอบคุณแม่มากนะครับ ------ (2)
กำลังนั่งทำงานที่ค้างอยู่ เพื่อนๆก็ออกกันไปแพลททินัม สงสัยคงจะรีบกันมาก เพราะไม่มีใครคอยเลย (อย่างนี้แหละ...) ก็แอบน้อยใจนิดนึง
กำลังจะเดินออกจากห้อง อาจารย์สุมนาก็โทรมาให้เช็ค นร.ที่ขาดในคาบจารย์ ก็หาๆๆ แล้วก็โทรกลับหาจารย์ บอกไปเพราะมีแค่คนเดียว (ใครเอ่ย ???)
ก็รีบกินข้าวเที่ยงกับเบียร์และฮอร์ (เพื่อนข้างห้องที่แสนดี แล้วเพื่อนในห้องไปไหนล่ะ??) กินข้าวไปประมาณ ชั่วโมงนึงละมั้ง เพราะตอนนั้นเที่ยงอยู่
ถึงไป รพ.ตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ พอกินข้าวเสร็จ ก็รีบเดินออกจากรร. ทางด้านหลัง ไปรอรถเมล์ที่หน้าโรงหนังสยาม บอกลาเบียร์ไป ส่วนเจ้าฮอร์มันก็ดั้นน บอกว่า
จะไปด้วยซะอีก เง้อ (เราเกรงใจแก รู้รึเปล่าเนี่ยยย) คอยอยู่พักนึง 54 ตัวดีก็ไม่ยอมมาสักที เลยเดินดุ่มๆ ไปหน้า MBK แปปเดียวก้ได้ขึ้น 542 ไปลง
อนุสาวรีย์ชัยฯ ฝั่งราชวิถี ต่อเมล์สาย 8 ไปรามาฯ ลงเมล์ ข้ามสะพานลอย ถึงหน้ารพ. โทรศัพท์หาคุณป้าที่นางฟ้าติดต่อไว้ให้ (นางฟ้า = แม่) สัญญาณ เป็นไร
เนี่ย !!! โทรไม่ติดเลย O-O ต้องยืมของฮอร์โทรอีกและ เห้อ รบกวนแกจริงๆเลย เจอคุณป้า คุณป้าก็พาไปที่ หู คอ จมูก กรอกประวัติ (แค่เนี่ย - -) คุณป้าใจดี
อ่ะ ทำให้ทุกอย่างเลย เวชระเบียนก็ไม่ต้องไป ถ้าเป็นคนอื่นสงสัยคงจะรอเป็นปี (เวอร์ไปมั้งเนี่ย) คุณป้าก็บอกให้รอถึงสี่โมงครึ่ง (ขณะนั้นเวลาบ่ายสองกว่า) โห
ในใจก็ นึกไปว่าตั้งสองชั่วโมงจะให้ไปไหนล่ะเนี่ย นึกเสร็จ คุณป้าก็ขอตัวไปทำงานต่อ ขอบคุณคุณป้ากัลยามากนะครับ ------(3)
เลยชวนฮอร์ไปอนุสาวรีย์กัน ไปมาไปมาอยู่เนี่ยแหละ ไปนั่งเล่น photo hunt กันที่ century ชั้นโรงหนัง เล่นไปเล่นมา เห้ย บ่ายสามกว่าแล้ว
กะจะไปกันสักบ่างสามครึ่ง เหอะๆ ก็เลิกเล่นแล้วลงมาขึ้นรถอีก ค่ารถเมล์ ขาไปแกจ่าย ขากลับเราจ่าย OK? สรุปแกจ่ายซะมากกว่า เอาเปรียบงิ ถึงรพ.ก็เข้า
7 หิวอ่ะ ทำไงได้ ซื้ออะไรต่ออะไรซะเยอะเลย จะจ่ายตังค์และ ไอ้กุ้ก (ฮอร์) ก็ตัดหน้าจ่ายไปอีกแล้ว - - (แกจะเลี้ยงเราทำไมเนี่ย คราวหลังไม่ยอมแน่)
ก็ไปนั่งกินไรกัน คอยคุณพยาบาลเรียกชื่อ "คุณกิตติโชติ ด้วงนุ่มค่ะ" เข้าไปรอคุณหมอ อีก คราวนี้แหละ หลับ Zzzz แล้วพยาบาลก็เรียกเข้าห้องตรวจ สะดุ้ง
ด้วยความตกใจ เห้อ จิตหายไปทันที คุณหมอก็ถามนุ้น ถามนี่ แล้วยังมารู้ดีอีก ว่าเรากินยาสิว ไอ้เม็ดม่วงๆนั้นด้วย สงสัยปากคงแตกมากสิท่า จ่ายตังค์ รับยา
เย้ เสร็จสักที คุณแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ห่างกันแบบนี้แม่เป็นห่วงแย่ แล้วเราก็ออกจาก รพ.กัน ด้วยความหิวโหย (แล้ว 7 ไม่ได้ช่วยไรเลยหรอเนี่ย)
นั่ง 8 กลับ อนุสาวรีย์ ไอ้กุ้กชวนกิน ฮะจิฯ ก็ไปกินกัน เดินไป century อีกและ แหะๆ พี่สาวก็โทรมา ถามว่าเป็นไงบ้าง ก็ตอบไปว่าโอเค พรุ่งนี้เรา
คงได้เจอกันนะ เจ้ขวัญ (เอาของมาให้น้องด้วย) ขอบคุณนะเจ้ที่เป็นห่วงน้อง ------ (4)
ตอนกินฮะจิอยู่ แม่ก็โทรมา เข้าใจหัวอกความเป็นพ่อแม่คนในทันที ทำไมช่วงนี้ถึงคิดถึงบ้านมากมาย สงสัยอยู่คนเดียวมากไปมั้ง ??
กิน ต้มยำชาชูเมน เผ็ดได้ใจเล้ย อะไรจะขนาดนี้ กินเสร็จกำลังจะกลับ จะหยิบสลิปไปจ่ายตังค์ อ่าว หายไปไหนแล้วล่ะ กำจิ อยู่ในมือไอ้กุ้ก
เอาไปจ่ายเฉยอ่ะ (บ้านนายรวยนักหรอไง) ความจริงแม่โทรมาบอกว่าให้เลี้ยงเพื่อนเค้าด้วยนะ เค้าอุตส่าห์มาเป็นเพื่อน แต่ไอ้กุ้กนะ ทำกันได้
คืนตังค์ไปก็ไม่เอาอีก โอย จำไว้ คราวหลังไม่ไปไหนกะแกอีกแล้ว เหนื่อยใจ ขากลับไปรอเมล์หน้า century ไอ้กุ้กก็ดันมาส่งที่หออีก
แกรู้รึเปล่าว่าเราลำบากใจ เราเกรงใจแกนะเว้ย มันรู้สึกไม่ดีอ่ะ เราก็เข้าใจแกนะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะฮอร์สำหรับครึ่งวันที่แกสละเวลามากับเราอ่ะ ------(5)
ลงท้ายด้วยคำว่า "ขอบคุณ"
PS.
- บทความนี้มีข้อคิดหลายข้อนะ
- เพื่อนแท้หายากดั่งโบราณว่าจริงๆ
- กตัญญูกตเวที ก่อนที่จะสาย
- เข้าใจหัวอกคนที่เป็นพอแม่บ้างก็ดี
- แค่คำว่า "ขอบคุณ"ที่พูดออกมา มันทำให้ใครบางคนรู้สึกดีได้เหมือนกันน่ะ
- รักแม่ รักยาย รักเจ้ขวัญ รักเจ้บัว รักเพื่อนทุกคน
- พ่ออยู่ที่ไหนแล้ว น้องแทนคิดถึงพ่อนะ สัญญาว่าจะเป็นเด็กดี ไม่ทำให้แม่เสียใจเป็อันขาด
กว่าจะเปิดเนตได้ เฮ้อ !! ห่วยๆๆ ไม่ไหวเล้ย
วันนี้เป็นวันศุกร์ เรียนแค่สามคาบ (ไปรร.เกือบสาย - -) นึกขึ้นได้ว่าตอนเช้าต้องรีบไปเอาใบคะแนนเลขง่ายของจารย์ภราดรมาให้เพื่อนเช็ค
กำล่ะ><" ยังเดินออกจากหออยู่เลย ไม่ได้การณ์ เลยโทรบอกเจ้ารองหัวหน้า (กลม) ให้ไปเอาแทน ขอบคุณนะอาร์ต ------ (1)
จากนั้นก็เรียนๆ เล่นๆไปได้สองคาบ อาจารย์ปัญญาก็โทรมาบอกว่าวันนี้อาจารย์ไม่สบาย ไม่มารร.นะ ให้ไปเอาใบงานมาทำด้วย ??? เง้อ คิดว่าจะสบาย
ที่ไหนได้ อาจารย์มีแผนสอง แหะๆ (ไม่ได้นินทานะอาจารย์) ก็ทำใบงานไป พอเลิกเรียนทุกคาบและ วุ้ววว สบายๆ ก็ต้องรีบไปโรงพยาบาลรามาฯ
เพราะไอ (ไม่อยากเล่นมุก - -") มาหลายเดือนแล้ว แม่ก็บอกว่าต้องไปหาได้แล้วนา กลัวจะเป็นวัณโรค (ช่างน่ากลัว !!!) แม่ก็ติดต่อคนที่รู้จักใน รพ.ให้
ขนาดแม่อยู่พัทลุงนะ ยังสามารถได้ขนาดนี้ แหะๆ (รักแม่จังเลย) ขอบคุณแม่มากนะครับ ------ (2)
กำลังนั่งทำงานที่ค้างอยู่ เพื่อนๆก็ออกกันไปแพลททินัม สงสัยคงจะรีบกันมาก เพราะไม่มีใครคอยเลย (อย่างนี้แหละ...) ก็แอบน้อยใจนิดนึง
กำลังจะเดินออกจากห้อง อาจารย์สุมนาก็โทรมาให้เช็ค นร.ที่ขาดในคาบจารย์ ก็หาๆๆ แล้วก็โทรกลับหาจารย์ บอกไปเพราะมีแค่คนเดียว (ใครเอ่ย ???)
ก็รีบกินข้าวเที่ยงกับเบียร์และฮอร์ (เพื่อนข้างห้องที่แสนดี แล้วเพื่อนในห้องไปไหนล่ะ??) กินข้าวไปประมาณ ชั่วโมงนึงละมั้ง เพราะตอนนั้นเที่ยงอยู่
ถึงไป รพ.ตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ พอกินข้าวเสร็จ ก็รีบเดินออกจากรร. ทางด้านหลัง ไปรอรถเมล์ที่หน้าโรงหนังสยาม บอกลาเบียร์ไป ส่วนเจ้าฮอร์มันก็ดั้นน บอกว่า
จะไปด้วยซะอีก เง้อ (เราเกรงใจแก รู้รึเปล่าเนี่ยยย) คอยอยู่พักนึง 54 ตัวดีก็ไม่ยอมมาสักที เลยเดินดุ่มๆ ไปหน้า MBK แปปเดียวก้ได้ขึ้น 542 ไปลง
อนุสาวรีย์ชัยฯ ฝั่งราชวิถี ต่อเมล์สาย 8 ไปรามาฯ ลงเมล์ ข้ามสะพานลอย ถึงหน้ารพ. โทรศัพท์หาคุณป้าที่นางฟ้าติดต่อไว้ให้ (นางฟ้า = แม่) สัญญาณ เป็นไร
เนี่ย !!! โทรไม่ติดเลย O-O ต้องยืมของฮอร์โทรอีกและ เห้อ รบกวนแกจริงๆเลย เจอคุณป้า คุณป้าก็พาไปที่ หู คอ จมูก กรอกประวัติ (แค่เนี่ย - -) คุณป้าใจดี
อ่ะ ทำให้ทุกอย่างเลย เวชระเบียนก็ไม่ต้องไป ถ้าเป็นคนอื่นสงสัยคงจะรอเป็นปี (เวอร์ไปมั้งเนี่ย) คุณป้าก็บอกให้รอถึงสี่โมงครึ่ง (ขณะนั้นเวลาบ่ายสองกว่า) โห
ในใจก็ นึกไปว่าตั้งสองชั่วโมงจะให้ไปไหนล่ะเนี่ย นึกเสร็จ คุณป้าก็ขอตัวไปทำงานต่อ ขอบคุณคุณป้ากัลยามากนะครับ ------(3)
เลยชวนฮอร์ไปอนุสาวรีย์กัน ไปมาไปมาอยู่เนี่ยแหละ ไปนั่งเล่น photo hunt กันที่ century ชั้นโรงหนัง เล่นไปเล่นมา เห้ย บ่ายสามกว่าแล้ว
กะจะไปกันสักบ่างสามครึ่ง เหอะๆ ก็เลิกเล่นแล้วลงมาขึ้นรถอีก ค่ารถเมล์ ขาไปแกจ่าย ขากลับเราจ่าย OK? สรุปแกจ่ายซะมากกว่า เอาเปรียบงิ ถึงรพ.ก็เข้า
7 หิวอ่ะ ทำไงได้ ซื้ออะไรต่ออะไรซะเยอะเลย จะจ่ายตังค์และ ไอ้กุ้ก (ฮอร์) ก็ตัดหน้าจ่ายไปอีกแล้ว - - (แกจะเลี้ยงเราทำไมเนี่ย คราวหลังไม่ยอมแน่)
ก็ไปนั่งกินไรกัน คอยคุณพยาบาลเรียกชื่อ "คุณกิตติโชติ ด้วงนุ่มค่ะ" เข้าไปรอคุณหมอ อีก คราวนี้แหละ หลับ Zzzz แล้วพยาบาลก็เรียกเข้าห้องตรวจ สะดุ้ง
ด้วยความตกใจ เห้อ จิตหายไปทันที คุณหมอก็ถามนุ้น ถามนี่ แล้วยังมารู้ดีอีก ว่าเรากินยาสิว ไอ้เม็ดม่วงๆนั้นด้วย สงสัยปากคงแตกมากสิท่า จ่ายตังค์ รับยา
เย้ เสร็จสักที คุณแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ห่างกันแบบนี้แม่เป็นห่วงแย่ แล้วเราก็ออกจาก รพ.กัน ด้วยความหิวโหย (แล้ว 7 ไม่ได้ช่วยไรเลยหรอเนี่ย)
นั่ง 8 กลับ อนุสาวรีย์ ไอ้กุ้กชวนกิน ฮะจิฯ ก็ไปกินกัน เดินไป century อีกและ แหะๆ พี่สาวก็โทรมา ถามว่าเป็นไงบ้าง ก็ตอบไปว่าโอเค พรุ่งนี้เรา
คงได้เจอกันนะ เจ้ขวัญ (เอาของมาให้น้องด้วย) ขอบคุณนะเจ้ที่เป็นห่วงน้อง ------ (4)
ตอนกินฮะจิอยู่ แม่ก็โทรมา เข้าใจหัวอกความเป็นพ่อแม่คนในทันที ทำไมช่วงนี้ถึงคิดถึงบ้านมากมาย สงสัยอยู่คนเดียวมากไปมั้ง ??
กิน ต้มยำชาชูเมน เผ็ดได้ใจเล้ย อะไรจะขนาดนี้ กินเสร็จกำลังจะกลับ จะหยิบสลิปไปจ่ายตังค์ อ่าว หายไปไหนแล้วล่ะ กำจิ อยู่ในมือไอ้กุ้ก
เอาไปจ่ายเฉยอ่ะ (บ้านนายรวยนักหรอไง) ความจริงแม่โทรมาบอกว่าให้เลี้ยงเพื่อนเค้าด้วยนะ เค้าอุตส่าห์มาเป็นเพื่อน แต่ไอ้กุ้กนะ ทำกันได้
คืนตังค์ไปก็ไม่เอาอีก โอย จำไว้ คราวหลังไม่ไปไหนกะแกอีกแล้ว เหนื่อยใจ ขากลับไปรอเมล์หน้า century ไอ้กุ้กก็ดันมาส่งที่หออีก
แกรู้รึเปล่าว่าเราลำบากใจ เราเกรงใจแกนะเว้ย มันรู้สึกไม่ดีอ่ะ เราก็เข้าใจแกนะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะฮอร์สำหรับครึ่งวันที่แกสละเวลามากับเราอ่ะ ------(5)
ลงท้ายด้วยคำว่า "ขอบคุณ"
PS.
- บทความนี้มีข้อคิดหลายข้อนะ
- เพื่อนแท้หายากดั่งโบราณว่าจริงๆ
- กตัญญูกตเวที ก่อนที่จะสาย
- เข้าใจหัวอกคนที่เป็นพอแม่บ้างก็ดี
- แค่คำว่า "ขอบคุณ"ที่พูดออกมา มันทำให้ใครบางคนรู้สึกดีได้เหมือนกันน่ะ
- รักแม่ รักยาย รักเจ้ขวัญ รักเจ้บัว รักเพื่อนทุกคน
- พ่ออยู่ที่ไหนแล้ว น้องแทนคิดถึงพ่อนะ สัญญาว่าจะเป็นเด็กดี ไม่ทำให้แม่เสียใจเป็อันขาด
วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2551
- - - - - - D o u b l e A - - - - - -
> > > ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นทะเลทราย < < <
อย่างที่หลายๆคนคงจะเห็นในโฆษณาเชิญชวนให้พี่น้องเกษตรกรหลายคนหันมาปลูกต้นกระดาษ Double A โดยอ้างว่า ปลูกแล้วจะรวยขึ้นทันตาเห็น ก่อนอื่นอยากบอกก่อนว่าที่จริงต้นไม้ที่ว่านั้นก็คือ ต้นยูคาลิปตัสที่ได้ทำการดัดแปลงพันธุกรรมแล้วนั่นเอง การนำต้นยูคาลิปตัสหรือต้น Double A มาปลูกนั้นเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ในหลวงท่านก็เคยดำรัสไว้ว่า ชาวบ้านไม่ควรนำต้นเหล่านี้มาปลูก เพราะมันเป็นพืชต่างถิ่น ท่านวิทยากรก็เสริมว่า ต้นยูคาเป็นพืชเชิงเดี่ยว เมื่อปลูก! แล้วจะส่งผลให้พื้นแผ่นดินในบริเวณนั้น แห้งผาก เนื่องจากมันี้จะดูดซึมน้ำอย่างรวดเร็ว และต้องการน้ำมาก ทำให้รากของต้นๆหนึ่งอาจยาวได้ถึง20เมตรเลยทีเดียว เมื่อดินบริเวณนั้นถูกดูดน้ำจนหมด ผืนดินก็จะกลายเป็น ทะเลทราย ในที่สุด ว่าแล้ววิทยากรก็หยิบดินให้เราดู แล้วโปรยลงพื้น มันคือทรายชัดๆ แทนที่จะเป็นดินในป่าแบบนี้ อยากให้ทุกคนคิดดู ถ้ามีการปลูกต้น Double A เป็นจำนวนมาก ผู้คนได้ผลกำไรอย่างงอกงามในการทำธุรกิจกับแผ่นดินของชาติ แต่นานๆไปเล่า จะเกิดอะไรขึ้น ผืนแผ่นดินไทยในอนาคตก็มีโอกาสจะกลายเป็นทะเลทรายได้
** ข้อความดีดีที่ไม่ควรมองข้าม**
PS. - FORWARD MAIL by Boat
- ก็กระดาษเค้าดีนี่ ทำไงได้
- รักทุกค้นนนน
อย่างที่หลายๆคนคงจะเห็นในโฆษณาเชิญชวนให้พี่น้องเกษตรกรหลายคนหันมาปลูกต้นกระดาษ Double A โดยอ้างว่า ปลูกแล้วจะรวยขึ้นทันตาเห็น ก่อนอื่นอยากบอกก่อนว่าที่จริงต้นไม้ที่ว่านั้นก็คือ ต้นยูคาลิปตัสที่ได้ทำการดัดแปลงพันธุกรรมแล้วนั่นเอง การนำต้นยูคาลิปตัสหรือต้น Double A มาปลูกนั้นเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ในหลวงท่านก็เคยดำรัสไว้ว่า ชาวบ้านไม่ควรนำต้นเหล่านี้มาปลูก เพราะมันเป็นพืชต่างถิ่น ท่านวิทยากรก็เสริมว่า ต้นยูคาเป็นพืชเชิงเดี่ยว เมื่อปลูก! แล้วจะส่งผลให้พื้นแผ่นดินในบริเวณนั้น แห้งผาก เนื่องจากมันี้จะดูดซึมน้ำอย่างรวดเร็ว และต้องการน้ำมาก ทำให้รากของต้นๆหนึ่งอาจยาวได้ถึง20เมตรเลยทีเดียว เมื่อดินบริเวณนั้นถูกดูดน้ำจนหมด ผืนดินก็จะกลายเป็น ทะเลทราย ในที่สุด ว่าแล้ววิทยากรก็หยิบดินให้เราดู แล้วโปรยลงพื้น มันคือทรายชัดๆ แทนที่จะเป็นดินในป่าแบบนี้ อยากให้ทุกคนคิดดู ถ้ามีการปลูกต้น Double A เป็นจำนวนมาก ผู้คนได้ผลกำไรอย่างงอกงามในการทำธุรกิจกับแผ่นดินของชาติ แต่นานๆไปเล่า จะเกิดอะไรขึ้น ผืนแผ่นดินไทยในอนาคตก็มีโอกาสจะกลายเป็นทะเลทรายได้
** ข้อความดีดีที่ไม่ควรมองข้าม**
PS. - FORWARD MAIL by Boat
- ก็กระดาษเค้าดีนี่ ทำไงได้
- รักทุกค้นนนน
วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551
- - - - - - C H A N G E - - - - - -
มันเปลี่ยนไปแล้วนะ คำว่า"เพื่อน" แต่ก่อนไม่เคยรู้สึกแบบนี้ แต่ก่อนยังหลอกล้อได้ แต่ตอนนี้ ทำไม!! ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ เฝ้าคอยแต่มอง มองหาโดยไม่รู้จักพัก น้ำตา ~~ เจ้าปัญหา ไหลลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ รู้สึกเหมือนกันรึเปล่า?? ไม่สิ! ไม่มี คิดไปเองจริงๆ
ลงท้ายด้วยคำว่า "เสียใจ"
ปล. มันเปลี่ยนไปแล้วคำว่า"เพื่อน"
ลงท้ายด้วยคำว่า "เสียใจ"
ปล. มันเปลี่ยนไปแล้วคำว่า"เพื่อน"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)